ปัญญาประดิษฐ์ คืออะไร
คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันสามารถจำลองความสามารถหลายอย่างของมนุษย์ เช่น
การคำนวณ การจับ การพูด
การจำการเปรียบเทียบ
นักวิจัยได้พยายามทำการศึกษาเกี่ยวกับความสามารถต่าง ๆ เหล่านี้ โดยการพัฒนาด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่สามารถเลียนแบบสติปัญญามนุษย์ เช่น
การวิจัยด้านการทำงานเกี่ยวกับระบบที่มีความสามารถในการคิดหาเหตุผล
การเรียนรู้และสะสมความรู้การพัฒนาความสามารถทางด้านเทคนิคและการจำลองประสาทสัมผัสของมนุษย์โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ปัญญาประดิษฐ์( A I : Artificial Intelligence ) หมายถึง "การทำให้คอมพิวเตอร์
สามารถคิดหาเหตุผลได้ เรียนรู้ได้ทำงานได้เหมือนสมองมนุษย์"
ปัญญาประดิษฐ์
เป็นสาขาหนึ่งของคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการนำคอมพิวเตอร์ทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์มาใช้ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้คล้ายมนุษย์
สามารถประมวลผลในลักษณะของการคิดหาเหตุผล
การตัดสินใจใน การแก้ปัญหาการที่จะให้คอมพิวเตอร์ทำงานเหล่านี้ได้จะต้องพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้มีความเร็วในการประมวลผลสูง และสามารถทำการประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัญญาประดิษฐ์นั้นจะต้องมีความรู้อยู่ด้วย
เมื่อนำความรู้มาประมวลผลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และระบบนี้ก็สามารถแก้ปัญหาบางอย่างได้เช่นเดียวกับมนุษย์แต่การที่จะทำให้คอมพิวเตอร์มีความรู้ความสามรถในการประมวลผลความรู้ไม่ใช้เรื่องง่าย
เพราะความรู้เป็นฐานข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มากและการแก้ปัญหาของมนุษย์ก็เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน
ปัญญาประดิษฐ์สามารถสร้างให้หุ่นยนต์ทำงานกับเครื่องจักรไฟฟ้าแทนมนุษย์ได้ แต่อย่างไรก็ตามปัญญาประดิษฐ์ก็มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากมนุษย์คือไม่สามรถจำลองลักษณะพิเศษของมนุษย์เช่น
ความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์ขันและอารมณ์ต่างๆแต่สามารถจำลองความเคลื่อนไหวของมนุษย์เช่นการหยิบสิ่งของหรือวางตำแหน่งที่กำหนด
และจัดเตรียมสมองของระบบโดยสามารถจำลองกระบวนการทำงานด้านความคิดของมนุษย์ภายในขอบเขตความเชี่ยวชาญเฉดพาะอย่างเช่น การสำรวจทรัพยากรธรณี การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์
เป็นต้น
ดังนั้นปัญญาประดิษฐ์ส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ในการแก้ปัญหาที่เฉพาะเจาะจงหรือนำไปใช้มในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันความสำเร็จของปัญญาประดิษฐ์ขึ้นอยู่กับความรู้ความเชี่ยวชาญของมนุษย์และการเลือกรูปแบบของเหตุผล ปัญญาประดิษฐ์ที่สร้างขึ้นในปัจจุบันได้ขยายความสามารถในด้านความรู้ความเชี่ยวชาญออกไปหลายด้านสามารถแก้ปัญหาต่างๆให้แก่มนุษย์ในระดับที่ยากกว่าความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้วไปแต่อย่างไรก็ตามปัญญาประดิษฐ์ก็ยังมีข้อจำกัดหลาย
ๆ อย่าง จึงไม่สามารถแทนความเชี่ยวชาญของมนุษย์ได้ทั้งหมด เช่น ขาดความคิดวิจารณญาณ
พฤติกรรมที่เป็นไปตามธรรมชาติของมนุษย์
การศึกษาวิจัยในสาขาของปัญญาประดิษฐ์ มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960
ปัญญาประดิษฐ์ต้องการคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ สามารถทำงานได้หลายๆ
ด้านซึ่งในปัจจุบันประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์สูงขึ้นราคาถูกลง
การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ได้รุดหน้าไปมากจนถึงจุดที่โปรแกรมประยุกต์ทางด้านปัญญาประดิษฐ์กลายเป็นสิ่งที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางในโลกปัจจุบัน
จากงานวิจัยทางด้านปัญญาประดิษฐ์ผู้เขียนได้สรุปจาก ก่อเกียรติ เก่งสกุล
(2543)"ความฉลาดนั้นได้มาจากความรู้"รูปแบบของความรู้ควรจะมีลักษณะต่างๆ ดังนี้
1. ควรเป็นความรู้ทั่วไปที่ไม่ระบุลักษณะเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่งควรครอบคลุมไปถึงความรู้อื่นๆ
ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน มิฉะนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์จะต้องมีหน่วยความจำขนาดใหญ่มากเพื่อเก็บความรู้ต่างๆ
ไว้ทั้งหมด
2. ความรู้จะต้องเข้าใจง่าย สามารถเพิ่มเติมความรู้ได้
และสามารถแก้ไขปรับปรุงได้
3. ความรู้จะต้องอยู่ในรูปแบบที่สามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหาได้
ดังนั้น
จึงต้องมีการใส่ความรู้ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ในรูปของการแทนความรู้ซึ่งมีลักษณะถ่ายเทคุณสมบัติได้
มีการตอบสนองได้รวดเร็ว สามารถตัดรายละเอียดออกไปได้เมื่อไม่ได้ใช้งาน
และสามารถดึงออกมาใช้ได้เมื่อต้องการใช้

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น